ทำไมควรใช้เอนไซม์
เหตุผลที่เราควรกินเอนไชม์เสริม...ให้กับร่างกาย
จงทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย (make it simple) นักปรัชญาท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า มุมมองที่สำคัญของชีวิตคือ จงมองทุกสิ่งที่ยากให้เป็นเรื่องง่าย และกฏข้อแรกคือ "ถ้าจำเป็นแต่ไม่มี ก็หามา ถ้าไม่พอ ก็เอามาเสริม" ฟังดูธรรมดาดี ท่านจะนำไปใช้ชีวิตจริงก็ไม่ผิดระเบียบอะไร
เอนไซม์เสริม ปู่ย่า ตายาย มีอายุยืนยาวอยู่กันได้ไม่ต้องกินอาหารเสริมหรือกินเอนไซม์เสริม ถือว่าโชคดีเพราะเกิดมาในขณะที่สิ่งแวดล้อมสะอาด อาหารสด ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง ไม่มีการเติมสารเคมีให้พืชผัก ถ้าเราไปอ่านรายงานสถิติชีพของกระทรวงสาธารณสุขย้อนหลังกลับไป จะพบว่าโรคหัวใจเบาหวาน ข้ออักเสบ และมะเร็งในสมัยนั้น แทบจะไม่มีให้เห็น ซึ่งคำว่ามะเร็งในสมัยนั้น จะเป็นคำที่แปลกประหลาดไม่เคยได้ยินมาก่อน ในระยแรก วิตามินและเกลือแร่ มีเพียง 2 อย่างที่มีการมุ่งให้เป็นอาหารเสริมใน ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) Dr.wolfe ชาวเยอรมันได้ค้นพบประโยชน์ และวิธการใช้เอนไซม์ที่มาจากสัตว์ (Animal Enzyme) และในเวลาไล่เลี่ยกัน Dr.wolfe ชาวอเมริกันได้ศึกษาประโยชน์ของเอนไซม์จากพืช ผลการศึกษา และวิจัยของทั้งสองท่านปูทางไปสู่การใช้เอนไซม์มาเป็นอาหารเสริมในปัจจุบัน (Enzyme Supplement) การวิจัยในปี ค.ศ. 1940 (พ.ศ.2483) ได้พิสูจน์ว่า ดี เอ็น เอ (DNA) ในเซลล์ของร่างกายเป็นผู้ควบคุมการผลิตเอนไซม์ หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ เรามีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเอนไซม์ และถ้าเราแก่ตัวลงมาเมตาบอลิค เอนไซม์ก็จะผลิตได้น้อย เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แท้ที่จริงเกิดจากพื้นฐานของการขาดเอนไซม์(Low Enzyme Level) วิชาเอนไซม์(Enzymology) เป็นวิชาใหม่เอี่ยมเกิดขึ้นประมาณ พ.ศ. 2528 และการใช้เอนไซม์เสริม (Enzyme Supplement) เริ่มเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพก็ราว พ.ศ. 2538 นี้เอง
ประโยคเด็ด "เรามีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเอนไซม์"